วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

จับ2-ปล่อยข่าว อัปมงคล โพสต์"เน็ต"หุ้นดิ่ง

   นวันอังคาร ที่ 26 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2555 นับหนึ่งได้เรียนวิชา MEDIA INNOVATION AND INFORMATION TECHNOLOGY FOR EDUCATIONAL COMMUNICATION ในหัวข้อ กระทําผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 นับหนึ่งจึงได้เขียนบล็อกข่าวว่าด้วยการทำผิดตาม  พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 เพื่อศึกษาความรู้เพิ่มเติมจากแหล่งการเรียนรู้นอกห้องเรียนค่ะ ^^ 





จับ2-ปล่อยข่าว อัปมงคล โพสต์"เน็ต"หุ้นดิ่ง
ล็อกคาสนามบิน บิ๊กค้าหุ้นยูบีเอส สาว43รับข้อหา อีกคนหนุ่มซิมิโก้ ยึดคอมพ์-สาวต่อ
     ตร.รวบแล้ว 2 ตัว การปล่อยข่าวลืออัปมงคลทำหุ้นตก คนแรกเป็นพนักงานชายย่านสีลม ค้นที่อยู่พบหลักฐานโพสต์ข้อความลงเว็บไซต์ อีกคนเป็นผู้บริหารหญิงของหลักทรัพย์ ยูบีเอส ตร.ไปรอจับที่สุวรรณภูมิ หลังลงเครื่องกลับจากเวียนนา สารภาพโพสต์ข้อความตามสำนักข่าวต่างประเทศ ไม่มีเจตนาปั่นหุ้น อ้างประชาชนอยากรู้ว่าทำไมหุ้นตก

     เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 1 พ.ย. พล.ต.ต. ปัญญา มาเม่น รองผบช.ก. พล.ต.ต.อดิษร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท. พ.ต.อ.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รองผบก.ปอท. พ.ต.อ.อชายน ไกรทอง กก.1 บก.ทท. พ.ต.ท.พันธนะ นุชนารถ รองผกก.1 บก.ทท. นำกำลังจับกุมนายคธา ปาจาจริยพงษ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/156 ซอยปลูกจิตต์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. พนักงานบริษัท หลักทรัพย์ซิมิโก้ จำกัด ในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีโพสต์ข้อ ความลงเว็บไซต์เกี่ยวกับข่าวลือร้ายแรง จนทำให้ตลาด หลักทรัพย์ของไทยมีมูลค่าซื้อขายลดลงอย่างมากภายในวันเดียว โดยควบคุมตัวได้ที่อาคารลิเบอร์ตี้ ย่านสีลม ก่อนนำตัวไปสอบสวนขยายผลและตรวจค้นที่อยู่ พบเอกสารข้อความที่นำไปเขียนลงในเว็บไซต์ฟ้าเดียวกัน

     ต่อมาเวลา 15.15 น. พล.ต.ต.ปัญญานำกำลังไปจับกุมน.ส.ธีรนันต? วิภูชนิน อายุ 43 ปี อดีตผู้บริหาร บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ยูบีเอส อยู่บ้านเลขที่ 368 ซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 19 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. ที่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภายหลังเดินทางกลับจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยสายการบินออสเตรีย แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS-0025

     เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกต่อประชาชน ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ตามหมายจับศาลอาญาวันที่ 30 ต.ค. 2552 พร้อมของกลางโน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง กล้องดิจิตอล 1 ตัว เอส ดีการ์ด 1 อัน และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง

     จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่า เป็นบุคคลตามหมายจับจริง โดยเป็นผู้แปลข้อความตามที่เป็นข่าวที่อ่านพบจากเว็บไซต์ของสำนักข่าวต่างประเทศ ก่อนนำมาลงโพสต์เว็บประชาไทที่เป็นสมาชิกอยู่ โดยใช้ชื่อว่า BBB ทั้งนี้เนื่องจากวันดังกล่าว หุ้นตกลงอย่างมาก ประชาชนอยากรู้ว่าเกิดจากอะไร จึงโพสต์ข้อความลงไปตามข่าวที่ได้จากสำนักข่าวต่างประเทศ ไม่ได้มีเจตนาเผยแพร่ข้อความเพื่อทำให้หุ้นตก

     ภายหลังสอบสวนเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นบ้านพัก เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ใช้เวลาประมาณ 1 ช.ม. ก่อนนำตัวไปสอบ สวนดำเนินคดีที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)

     กระทั่งเวลา 18.30 น. พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม น.ส.ธีรนันต? วิภูชนิน อดีตผู้บริหารบริษัท เงินทุนหลักทรัพย์ ยูบีเอส ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และนายคธา ปาจาจริยพงษ์ พนักงานบริษัทหลักทรัพย์ซิมิโก้ จำกัด ว่า ภายหลังเกิดกระแสข่าวลือที่ทําให้หุ้นตกอย่างรุนแรง รัฐบาลสั่งการบก.ปอท. และตํารวจท่องเที่ยว ร่วมกันสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทําผิด

     ผบช.ก.แถลงต่อว่า ภายหลังสืบสวนสอบสวนพบผู้กระทําความผิดจํานวน 2 ราย จึงขอศาลอนุมัติหมายจับกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ทั้งคู่ ก่อนนําตัวไปตรวจค้นและยึดของกลางเป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้เผยแพร่ข้อความลงในเว็บไซต์ ส่วนรายละเอียดลึกๆ ไม่สามารถเปิดเผยได้ในตอนนี้เพราะอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล เบื้องต้นแจ้งข้อหาทั้ง 2 คน คือ กระทําผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (2) โดยผู้ใดกระทําความผิดหรือนําเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ในประการที่ก่อให้เกิดความเสียหายหรือตื่นตระหนกต่อประชาชน มีอัตราโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ที่ตรวจยึดมา หากพบว่าเกี่ยวพันกับผู้อื่นผู้ใดอีกจะเรียกตัวมาสอบสวน หากผิดก็จะแจ้งข้อหาเช่นเดียวกัน 


ที่มา ข่าวสด


วิเคราะห์ข่าว 
    การสอบสวนพบว่าผู้กระทําความผิดมีจํานวน 2 ราย คือ นายคธา ปาจาจิรยพงษ์ พนักงานบริษัทเคที-เซฟิโก้ จำกัด และ น.ส.ธีรนันต์ วิภูชนิน อายุ 43 ปี อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง  ในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในกรณีโพสข้อความเกี่ยวกับข่าวเสื่อมเสีย จนทำให้ตลาดหลักทรัพย์ของไทยมีมูลค่าซื้อขายตกต่ำ ศาลจึงอนุมัติหมายจับกุมตัวทั้งคู่ พร้อมตรวจค้นและยึดของกลางเป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้เผยแพร่ข้อความลงในเว็บไซต์ มีโทษในข้อหา กระทำความผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ซึ่งมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยการนำเข้าข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่จะเกิดความเสียหาย ต่อความมั่นคงต่อประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกของประชาชน


สรุปข่าว
  นายคธา ปาจาจิรยพงษ์ พนักงานบริษัทเคที-เซฟิโก้ จำกัด และ น.ส.ธีรนันต์ วิภูชนิน อายุ 43 ปี อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง  ในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ สารภาพโพสต์ข้อความตามสำนักข่าวต่างประเทศ ไม่มีเจตนาปั่นหุ้น อ้างประชาชนอยากรู้ว่าทำไมหุ้นตก จึงโพสต์ข้อความอัปมงคลทำลายความมั่นคง และทำให้ตลาดหลักทรัพย์เกิดความปั่นป่วนจากข่าวลือดังกล่าว จนทำให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเกิดความแตกตื่นเกิดการเทขายหุ้นกัน จ้าละหวั่น เพียงแค่ 2 วันคือ วันที่ 14-15 ตุลาคม ที่ผ่านมาที่เกิดข่าวลือทำให้หุ้นรูดลงไปกว่า 60 จุด 


ความคิดเห็นของนับหนึ่งในคดีนี้
   เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วนะคะว่าโลกอินเทอร์เน็ต หรือโลกไซเบอร์นั้น เป็นสื่อที่ได้รับความนิยมและแพร่หลายเป็นอย่างมาก ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคอินเทอร์เน็ต ได้รับประโยชน์ ได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลินจากสื่อทางโลกอิเทอร์เน็ต เช่น ได้เล่นเกมออนไลน์ ,ได้ chat กับคนแปลกหน้า , ได้ดูรูปโป๊แบบไม่จำกัด ,ได้หาแฟนใหม่ทางเน็ตวันละ 10 คน , ได้ข้อมูลต่างๆ นาๆ มากมาย แต่ในขณะเดียวกันสื่อหรือเทคโนโลยีเหล่านี้ก็มีอันตรายอยู่ร้อยแปด หากเราใช้อินเตอร์เน็ตได้อย่างถูกต้องเหมาะสมก็จะเกิดเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อตนเองและได้แบ่งปันสิ่งดีๆ สู่สังคม ในทางกลับกันหากใช้อินเตอร์เน็ตแบบผิดๆ ดั่งเช่นกรณีในข่าวที่หนึ่งได้เสนอมานี้ก็จะเป็นโทษต่อตนเอง ต่อผู้อื่น ต่อสังคม เกิดความเสียหายในวงกว้างดังนั้นผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำเป็นต้องรอบคอบและคำนึงถึงผลที่ตามมาจากการกระทำให้มากที่สุด มีศีลธรรม จริยธรรม ในการใช้อินเตอร์เน็ตหรือการแบ่งปันข้อมูลต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิความเดือนร้อนต่อตนเองในภายภาคหน้า

   เช่นนั้น....หนึ่งขอเสนอวิธีหาความสุขอย่างสร้างสรรค์ (ธรรมฉันทะ) จากอินเทอร์เน็ตสัก 5 วิธี จาก Eduzones Elibrary, สารานุกรมฟรี มาแนะนำกัน หนึ่งว่าเขาเขียนดีนะ แบบว่าให้ได้ทั้งสนุก และได้รับสาระไปด้วย ดังต่อไปนี้ 

1."ชื่นชมความงามธรรมชาติบนเน็ต" เปิดเวบค้นหาภาพธรรมชาติ จำพวก ต้นไม้ ภูเขา วิวสวย ๆ ดวงจันทร์ หรือ ดอกไม้ ฯลฯ พอได้พบภาพที่ถูกใจ ให้คุณมองภาพนั้นด้วยความชื่นชมพร้อมทั้งกล่าวพรรณาความงามออกมา อาจจะเป็นคำพูดดี ๆ หรือ แต่งเป็นกลอน หรือแต่งเป็นเพลง ก็ได้ หากคุณลองทำดูแล้วคุณรู้สึกว่าจิตใจของคุณมีความแช่มชื่นเบิกบาน จนอยากออกไปพบเห็นธรรมชาติจริง ๆ ข้างนอก ละก้อ...แสดงว่าคุณได้ เข้าถึงความงามของธรรมชาติบ้างแล้ว 

2. "พรรณาความงามของงานศิลปะ" อันนี้ก็คล้าย ๆ กัน ให้ search ค้นหาภาพงานศิลปะต่างๆ ที่มีอยู่มากมายในอินเทอร์เน็ต คัดเลือกภาพที่ถูกใจสักภาพ แล้วให้คุณ พรรณาความงามของงานศิลปะชิ้นนั้น โดยสมมุติตัวเองว่าเป็นศิลปินกำลังบรรยาย ให้ผู้ชมฟัง พรรณาเข้าไปเถอะ หรือจะใช้วิธีพิมพ์บรรยายลงในคอมพ์ก็ได้ ทำอย่างนี้สักประเดี๋ยวจิตใจของคุณก็จะเกิดความปีติสุข เพราะได้เข้าถึงความงามของศิลปะ 

3. มีความสุขกับการเป็น"พหูสูต " "พหูสูต" แปลง่าย ๆ ว่า"ผู้รอบรู้" คือ ไม่ว่าจะพบเห็นอะไร ก็จะมองเห็นเป็นความรู้ไปหมด สามารถ อธิบายทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างละเอียดลึกซึ้ง นิสัย"พหูสูต" นี่สามารถสร้างขึ้นมาได้ หากฝึกฝนเป็นประจำ ยิ่งสมัยนี้มีอินเทอร์เน็ตยิ่งง่ายใหญ่ วิธีง่าย ๆ เริ่มต้นด้วย ทุก ๆ วัน ก่อนจะเปิดเน็ตให้ลองเหลียวมองสิ่งต่างๆ รอบตัวคุณ แล้วตั้งคำถามกับตัวเอง "วันนี้เราอยากจะรู้เรื่องเกี่ยวกับอะไร" เมื่อเราได้พบสิ่งที่น่าสนใจแล้ว ก็ให้ค้นในอินเทอร์เน็ตว่าเราได้รับความรู้อะไรจากสิ่งนั้นบ้าง ยกตัวอย่าง เหลียวไปเหลียวมารอบ ๆ ตัว ก็พบว่าวันนี้ เราอยากจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับ "ปากกาลูกลื่น"ที่วางอยู่บนโต๊ะ เราก็พิมพ์ คำว่า"ปากกาลูกลื่น" หรือ ball-point pen ลงในเวบไซต์ประเภท search engine ( เช่น google.com ,siamguru.com ฯลฯ) จากนั้นก็ให้คัดเลือกหาอ่านเรื่องราวที่มีความรู้เกี่ยวกับ"ปากกาลูกลื่น" เก็บเกี่ยวสาระให้ได้มากที่สุด จนเราสามารถคุยเรื่องปากกาลูกลื่นได้เป็นชั่วโมง ๆ (แววพหูสูตเริ่มปรากฏ) วันต่อ ๆ มาก็ให้มองหาสิ่งอื่น รอบๆ ตัวเพื่อค้นหาความรู้อีก ลองตั้งเป้าไว้เลยว่า จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับสิ่งของที่มีอยู่ในบ้านให้หมดทุกอย่าง หากใครทำได้ ถือว่าได้เป็นผู้รอบรู้คนหนึ่งในบ้านเลยทีเดียว 

4. สารานุกรมภาพ มาสะสม"ภาพความรู้"กันดีกว่า (รับรอง สนุกว่าสะสมรูปโป๊ ) กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ท้าทายมาก เพราะมีคนฉลาดๆเท่านั้นเองที่สามารถทำได้ วิธีการง่าย ๆ ก็คือให้ท่องเว็บไปเรื่อย ๆ ทีนี้เกิดไปเจอภาพอะไรที่เขามีคำอธิบายเกี่ยวกับภาพนั้น ๆ เราก็ลองอ่านดู ถ้าเรื่องราวน่าสนใจ อ่านแล้วเราเข้าใจ ประทับใจ ก็ให้ save ภาพนั้นเก็บไว้ในอัลบั้มภาพในเครื่องคอมพ์ของตนเอง ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนเรามีคลังภาพแห่งความรู้เก็บไว้มากมาย ( ทุกภาพก่อน save เราจะต้องอ่านเนื้อหาคำอธิบายจนเข้าใจภาพนั้นได้ดีก่อน ไม่ใช่ เก็บแต่ภาพแต่ไม่ยอมเก็บความรู้) ยกตัวอย่าง 
เปิดเวบไปเห็นภาพ"เหตุการณ์ 14 ตุลา" เราก็อ่านเรื่องราวบรรยายภาพนั้นจนเข้าใจ ว่าได้เกิดอะไรขึ้นในปี พ.ศ. 2516 จากนั้นให้save ภาพนั้นเก็บเอาไว้ หรือ ไปพบภาพ "super nova" (ดาวระเบิด) เราก็อ่านจนเข้าใจเนื้อหาสาระของภาพ แล้วก็เก็บภาพไว้ 
ทีนี้เวลาได้ภาพเก็บไว้ในอัลบั้มมากพอเพียงแล้ว เวลาว่าง ๆ ให้คุณลองจัดแสดงภาพแบบสไลด์โชว์ บรรยายให้เพื่อนฝูงฟัง รับรองว่าคุณจะกลายเป็นผู้ที่มีความรอบรู้ สามารถให้ความรู้และความสนุกสนานกับเพื่อน ๆ จนบรรดาเพื่อน ๆ จะต้องทึ่งในตัวคุณเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

5. "เก็บคำคม" ในเว็บบอร์ดบนอินเทอร์เน็ตมีคำคม ๆ สำนวนดี ๆ มากมาย อ่าน ๆ แล้ว ให้เลือกสรรคำที่โดนใจ เอามาสะสมไว้ในไดอารี่ของเรา จะได้เก็บไว้อ่านประเทืองปัญญา จริงอยู่ในเว็บบอร์ดส่วนใหญ่อาจจะมีคำพูดที่ไม่เหมาะสมมากมาย เช่น คำหยาบ คำส่อเสียด ด่าว่า กระทบกระเทียบ แต่ในคำพูดเหล่านี้บางครั้งก็มีสาระสอดแทรกอยู่ เราสามารถเลือกสรรสิ่งที่ดีๆ คือ เลือกเฟ้นสิ่งที่ เป็นเนื้อหาสาระออกมา ( คุ้ยหาเพชรจากกองขยะ ) คุณทราบหรือไม่ว่าคำพูดของคนบางคน (แม้แต่คำพูดของคนที่สติไม่ดี ) บางครั้งจะให้แง่คิดดี ๆ ที่ช่วยปรับปรุงชีวิตของเราให้พัฒนาขึ้นมาได้ ลองดูสิ แล้วคุณจะรู้ว่าการสะสมข้อความดี ๆ มีสาระ มีความสนุกสนาน และมีคุณค่า ไม่น้อยกว่าการสะสมพระเครื่อง หรือ ตุ๊กตาโมเดลราคาแพง ๆ เสียอีก